เมนู

ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
แม่น้ำใหญ่เหล่านี้คือ คงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหี ไหลมาบรรจบกัน
แม่น้ำนั้นพึงหมดไป สิ้นไป ยังเหลืออยู่สองสามหยาด เธอทั้งหลายจะ
สำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน น้ำในที่บรรจบกันซึ่งหมดไป ในรูป กับน้ำ
ที่ยังเหลืออยู่สองสามหยาด ไหนจะมากกว่ากัน ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น้ำในที่บรรจบกันซึ่งหมดไป สิ้นไปนี้แหละมาก
กว่า น้ำที่ยังเหลืออยู่สองสามหยาดมีประมาณน้อย น้ำที่เหลืออยู่สองสาม
หยาดเมื่อเทียบเข้ากับน้ำในที่บรรจบกัน ซึ่งหมดไป สิ้นไปแล้ว ไม่เข้า
ถึงเสี้ยวที่ 100 เสี้ยวที่ 1,000 เสี้ยวที่ 100,000 แม้ฉันใด.
[318] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ฯ ล ฯ การ
ได้ธรรมจักษุให้สำเร็จประโยชน์ใหญ่อย่างนี้.
จบสัมเภชอุทกสูตรที่ 4

อรรถกถาสัมเภชอุทกสูตรที่ 4



สัมเภชอุทกสูตรที่ 4

ง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาสัมเภชอุทกสูตรที่ 4

5. ปฐมปฐวีสูตร



ว่าด้วยบุรุษวางก้อนดิน 7 ก้อนไว้ที่แผ่นดินใหญ่


[319] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-

ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย. . . แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บุรุษพึงวางก้อนดินเท่าเมล็ดกระเบา 7 ก้อนไว้ที่แผ่นดินใหญ่ เธอจะ
สำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก้อนดินเท่าเมล็ดกระเบา 7 ก้อนที่บุรุษวาง
ไว้กับแผ่นดินใหญ่ ไหนจะมากกว่ากัน ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ แผ่นดินใหญ่นี้แหละมากกว่า ก้อนดินเท่าเมล็ดกระเบา
7 ก้อนที่บุรุษวางไว้มีประมาณน้อย ก้อนดินเท่าเมล็ดกระเบา 7 ก้อนที่
บุรุษวางไว้ เมื่อเทียบเข้ากับแผ่นดินใหญ่ ไม่เข้าถึงเสี้ยวที่ 100 เสี้ยวที่
1,000 เสี้ยวที่ 100,000 แม้ฉันใด.
[320] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ฯ ล ฯ การ
ได้ธรรมจักษุให้สำเร็จประโยชน์ใหญ่อย่างนี้.
จบปฐมปฐวีสูตรที่ 5

อรรถกถาปฐมปฐวีสูตร



ในปฐมปฐวีสูตรที่ 5 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า มหาปฐวิยา ความว่า ยกขึ้นไว้บนแผ่นดินใหญ่ภายใน
จักรวาล. บทว่า โกลฏฺฐิมตฺติโย ได้แก่ประมาณเท่าเมล็ดกระเบา. บทว่า
คุฬิกา ได้แก่ก้อนดินเหนียว. บทว่า อุปนิกฺขิเปยฺย ความว่า พึงวาง
ไว้ในที่หนึ่ง.
จบอรรถกถาปฐมปฐวีสูตรที่ 5